ทายาท “เซี๊ยะก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา” เชียงใหม่  ผู้สานต่ออุดมการณ์และคุณค่า ในการทำธุรกิจของครอบครัวด้วยหัวใจ

ทายาท “เซี๊ยะก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา” เชียงใหม่ ผู้สานต่ออุดมการณ์และคุณค่า ในการทำธุรกิจของครอบครัวด้วยหัวใจ

ทำที่บ้าน

"เซี๊ยะก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา" อาจเป็นเพียงร้านก๋วยเตี๋ยวร้านหนึ่ง แต่สำหรับ "คุณอ่าย อดิศรา วัฒนาสิระกุล" แล้ว นี่คือมรดกแห่งความรักที่พ่อตั้งชื่อตามแม่ผู้เป็นที่รัก และเป็นสัญลักษณ์ของการฟันฝ่าวิกฤติต้มยำกุ้ง จนกลายเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำน้ำพริกเผาเจ้าแรกของเชียงใหม่ หลังจากเรียนจบและไปเก็บประสบการณ์ทำงานที่กรุงเทพฯ เธอเลือกกลับมาสานต่อธุรกิจที่อยู่คู่เชียงใหม่มากว่า 30 ปี พร้อมภารกิจท้าทายในการรักษาจิตวิญญาณเดิมไปพร้อมกับการปรับเปลี่ยนให้ทันยุคสมัย

จากวันที่เด็กหญิงตัวน้อยช่วยเรียงตะเกียบ เช็ดโต๊ะในร้าน สู่วันนี้ที่เธอกลายเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง นำระบบ POS และการบริหารจัดการสมัยใหม่เข้ามาปฏิวัติร้าน ท่ามกลางความท้าทายในการสื่อสารกับทีมงานรุ่นเก่าที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เด็ก แต่ด้วยศิลปะของการ "บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น" ทำให้ทุกคนค่อยๆ เห็นถึงประโยชน์ของการเปลี่ยนแปลง จนปัจจุบันขยายเป็น 3 สาขา และกำลังจะมีสาขาที่ 4 ในเร็วๆ นี้

'ทำที่บ้าน' ขอชวนมาฟังบทเรียนของทายาทสาวที่ค้นพบว่า การสานต่อธุรกิจครอบครัวที่แท้จริงไม่ใช่แค่การรักษาสูตรลับหรือรสชาติดั้งเดิม แต่คือการสืบทอดอุดมการณ์ความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า และการทำให้พ่อแม่มีความสุขที่ได้เห็นสิ่งที่พวกเขาสร้างมาถูกพัฒนาต่อยอดอย่างมีคุณค่า

จุดเริ่มต้นที่ไม่ธรรมดา

ต้นกำเนิดของร้านเซี๊ยะไม่ได้เริ่มที่เชียงใหม่ แต่ย้อนไปไกลถึงเยาวราช เมื่อ “อาเหล่ากง” เคยเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวและทำลูกชิ้นปลาด้วยตัวเอง ก่อนที่รุ่นหลานอย่างคุณแม่ของคุณอ่ายจะไปเรียนสูตรลูกชิ้นปลาจากเหล่ากงด้วยความตั้งใจ หลังจดสูตรแบบละเอียดกลับเชียงใหม่ คุณพ่อซึ่งมีพรสวรรค์ด้านการทำอาหารจึงลงมือแกะสูตร ลองผิดลองถูก จนผลิตลูกชิ้นปลาสูตรโฮมเมดขายส่งเล็กๆ น้อยๆ และค่อยๆ เติบโตจนคุณพ่อตัดสินใจลาออกจากงานมาเปิดร้านเอง 

“พอแต่งงาน ม้า (แม่) ลาออกจากอาชีพพยาบาล มาคุยกันว่าจะทำอาชีพอะไร อาม่าแนะนำว่า ให้ไปหาเหล่ากงที่กรุงเทพฯ ให้เหล่ากงสอนวิชาลูกชิ้นให้ ม้าจึงตัดสินใจไปกรุงเทพ เหล่ากงไปซื้อปลาที่ตลาดเก่า สอนทุกขั้นตอน ม้าจดสูตรไว้และกลับมาเชียงใหม่ ป๊าทำตามสูตรอาเหล่ากงจนทำเป็น เลยมาเริ่มทำลูกชิ้นปลาโฮมเมด ขายส่งเล็กๆ วันละ 3-5 กิโลกรัม ตอนนั้นร้านสุกี้บูมมาก ร้านเราเลยขายดีไปด้วย ป๊าเลยลาออกจากงานประจำมาทำเต็มตัว ทำลูกชิ้นปลา เกี๊ยวปลา ปลาสวรรค์ ครบวงจร” 

เซี๊ยะ ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาต้มยำเจ้าแรกในเชียงใหม่

“ร้านขายส่งลูกชิ้นเราไปได้ดีมาตลอด จนมาเจอจุดพลิกคือวิกฤติต้มยำกุ้ง ร้านสุกี้ในเชียงใหม่ล้มไปกว่า 90% รายได้เราหายไปกว่า 70% จำได้ว่า ป๊าบอกจะไม่ไล่คนงานออก แต่ต้องหาวิธีเลี้ยงลูกน้องและครอบครัวให้รอด เลยทำร้านก๋วยเตี๋ยวดีกว่า ป๊าไปตระเวนชิมก๋วยเตี๋ยวเยอะมาก ทั้งในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ พบว่า ที่เชียงใหม่ยังไม่มีก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาต้มยำน้ำข้นแบบใส่น้ำพริกเผา เราเอาจุดนี้มาเป็นกระบอกเสียงด้วยว่า เซี๊ยะ คือร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาเจ้าแรกในเชียงใหม่ สูตรของเหล่ากงที่ป๊ามาปรุงให้รสชาติจัดจ้านเข้มข้นกว่าเดิม ส่วนชื่อร้าน ป๊าใช้ชื่อม้ามาตั้ง เพราะป๊าเริ่มต้นกิจการด้วยความรัก เลยใช้ชื่อคนที่แกรัก คือ ภรรยา”

เติบโต ผูกพัน กับธุรกิจและความอบอุ่นของครอบครัว

คุณอ่ายเล่าว่า เริ่มช่วยงานในร้านตั้งแต่ป.5 ทำหลายอย่าง ทั้งเรียงตะเกียบ เช็ดโต๊ะ เก็บเงิน ด้วยแนวคิดของพ่อกับแม่ว่า ครอบครัวคือทีม และทุกคนต้องช่วยงานกัน คุณพ่อเป็นคนหัวสมัยใหม่ แม้จะทำงานหนักมากตั้งแต่เช้าจรดเย็น แต่ก็ให้ลูกมีพื้นที่เติบโต มีอิสระในการเลือกเรียนและเก็บเกี่ยวประสบการณ์นอกบ้าน คุณอ่ายเลือกเรียนด้านวิทยาศาสตร์อาหารตามคำแนะนำของคุณพ่อ เพราะเกี่ยวข้องกับกิจการที่บ้าน หลังเรียนจบ คุณอ่ายไปเก็บประสบการณ์ทำงานด้านการขายและการตลาดกับบริษัทผลิตอาหารเสริมที่กรุงเทพฯ ได้เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ มากมาย จนเมื่อมีลูกและเกิดสถานการณ์ COVID-19 ขึ้น เธอจึงเลือกกลับมาอยู่เชียงใหม่ เพื่อให้ลูกมีประสบการณ์เติบโตใกล้ชิดครอบครัวอย่างที่เธอเคยได้รับ

สังเกต เปลี่ยนแปลง และสื่อสารให้คนที่บ้านเข้าใจ

เมื่อกลับมาทำที่บ้าน คุณอ่ายสังเกตว่า ลูกค้าของร้านส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัย และรู้สึกกังวลว่า ถ้าคนรุ่นนี้หายไป ใครจะเป็นลูกค้ากลุ่มใหม่ เธอจึงเริ่มพูดคุยกับน้องชายที่ถนัดด้านระบบและการจัดการ ทั้งคู่ร่วมกันวางแผนปรับโครงสร้างหลังบ้านใหม่เพื่อให้ร้านเป็นระบบและไปต่อได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ค่อยๆ ใส่ระบบ POS การจัดการสต๊อก การกระจายงาน เปลี่ยนจากระบบที่คุณพ่อคุมเองคนเดียว มาเป็นระบบที่ช่วยแบ่งเบางานและวัดผลได้ ทำให้ร้านสามารถวางแผนและเติบโตได้ในระยะยาว แม้จะไม่ง่าย เพราะต้องค่อยๆ พูดคุย ปรับตัวกับทีมงานรุ่นเก่า แต่การเปลี่ยนแปลงก็ค่อยๆ เกิดขึ้น พ่อแม่เริ่มเห็นข้อดีของระบบใหม่ ชีวิตก็เบาขึ้น มีเวลาพักผ่อน ใช้ชีวิตร่วมกันมากขึ้น

“ตอนแรกเรายังไม่แตะเรื่องทำระบบ เราจดปัญหาออกมาก่อนว่า มีอะไรที่เราอยากแก้บ้าง อย่างระบบ POS ตอนแรกป๊าไม่เห็นด้วย น้องชายเลยไปหาระบบมาลองทำให้ดู ป๊าเห็นว่า พอมีระบบ ม้าไม่ต้องเดินเก็บเงินเอง อยากปลีกตัวไปไหนก็ได้ ป๊าก็เริ่มเห็นข้อดี เวลาเราเข้ามาเราไม่สามารถเปลี่ยนได้ทั้งหมด แต่เริ่มทีละนิด ไม่ใช่แค่พ่อแม่ แต่หมายถึงพนักงานเก่าๆ ด้วย เขามองว่า เราเป็นเด็กที่เค้าเลี้ยงมา มันต้องมีศิลปะ บัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น แต่ก็มีบ้างที่ต้องเปลี่ยนผ่านคนงานบ้าง แต่เราก็พูดคุยให้จากกันด้วยดี เป็นเรื่องที่ต้องตัดสินใจ” 

ทำแบรนด์ให้สื่อสารไปถึงคนรุ่นใหม่

แม้เธอจะไม่ชอบการอยู่หน้ากล้อง แต่คุณอ่ายก็เข้าใจดีว่า ยุคสมัยนี้ต้องเกี่ยวข้องกับโลกโซเชียลอย่างเลี่ยงไม่ได้ จึงตัดสินใจเล่าเรื่องของร้านผ่านสื่อ เพื่อให้คนรู้ว่า ธุรกิจนี้มีเรื่องราวและผู้คนอยู่เบื้องหลัง และเธอต้องการถ่ายทอดคุณค่าของสิ่งที่ครอบครัวสร้างมากับมือ ปัจจุบัน เซี๊ยะไม่ได้หยุดอยู่แค่สาขาเดียว แต่ขยายถึง 3 สาขา และกำลังจะมีสาขาที่ 4 ภายในปีนี้ โดยใช้ระบบหลังบ้านที่รองรับการเติบโตแบบมีประสิทธิภาพ พร้อมต่อยอดแบรนด์ให้แข็งแรงยิ่งขึ้น

“มันถึงยุคที่เราต้องเอาตัวเราออกไปให้สังคมรู้จัก วัยของลูกค้าที่เราอยากให้รู้จัก เขาอยู่ในโซเชียลกัน เราต้องพาตัวเองเข้าไปอยู่ในโซเชียลให้เขาเห็น คนชอบฟังเรื่องราว ชอบรู้จักแบรนด์ผ่านเรื่องเล่าของผู้คน พอเรามีช่องทางออนไลน์ เราก็สามารถเล่าเรื่องของเรา ความตั้งใจ มรดกตกทอดและคุณค่าในธุรกิจของเราให้คนรับรู้ได้ด้วยว่า กว่าจะเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวที่อยู่มา 30 กว่าปี มันผ่านอะไรมาบ้าง” 

“ปัจจุบัน ร้านเซี๊ยะมี 3 สาขาแล้ว กำลังขยายสาขาที่ 4 และยังสามารถต่อยอดไปยังแบรนด์ Yellowtail Online ลูกชิ้นกุ้งหนึบ ที่ได้รับความไว้วางใจและนำวางขายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมไปถึงขยายการสั่งซื้อออนไลน์ ที่สามารถส่งรถเย็นตรงถึงบ้านทั่วประเทศไทย ทุกวันนี้ป๊ายังตื่นแต่เช้าไปเดินดูความเรียบร้อยที่โรงงานอยู่ แต่ไม่ได้ลงแรงทำงานแล้ว มีเวลาไปกินข้าวกับม้า มีอิสระในการใช้ชีวิตมากขึ้น ห่วงหน้าร้านน้อยลง ป๊าเห็นว่า ระบบมันมาช่วยแก้ปัญหาที่เขากังวลได้ และระบบช่วยเก็บข้อมูลสินค้า และพฤติกรรมลูกค้าเพื่อเอาไปพัฒนาร้านต่อได้ด้วย”  

ต่อยอดสู่ Yellowtail Online ขยายฐานลูกค้าทั่วประเทศ

ความท้าทายใหม่ของคุณอ่ายไม่ได้หยุดแค่การขยายสาขา ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เธอได้ต่อยอดผลิตภัณฑ์จากสูตรดั้งเดิมที่คุณพ่อทำมากว่า 30 ปี สู่แบรนด์ออนไลน์ในชื่อ "Yellowtail Online" โดยนำเอาลูกชิ้นกุ้งหนึบซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของร้าน มาพัฒนาให้สามารถจัดส่งแบบรถเย็นถึงมือลูกค้าทั่วประเทศ

"2 ปีมานี้ อ่ายเอาผลิตภัณฑ์ที่บ้าน สูตรที่ป๊าทำมานานกว่า 30 ปีนี่แหละมาต่อยอดไปยังแบรนด์ออนไลน์ชื่อ Yellowtail Online ลูกชิ้นกุ้งหนึบที่สามารถส่งรถเย็นตรงถึงบ้านทั่วประเทศไทย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่อยากสั่งสินค้าของเราแต่ไม่ได้อยู่ในเชียงใหม่ และเป็นแพชชั่นของอ่ายที่อยากให้ลูกชิ้นของป๊าไปไกลกว่าที่เคยเป็นมา"

ความสำเร็จของ Yellowtail Online ไม่ได้หยุดแค่การขายออนไลน์ ล่าสุดแบรนด์ได้รับความไว้วางใจให้วางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำระดับไฮเอนด์ ภายใต้เครือเดอะมอลล์ นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า สินค้าที่ทำด้วยความซื่อสัตย์ต่ออุดมการณ์และรักษาคุณภาพมาอย่างต่อเนื่อง สามารถเข้าถึงตลาดระดับบนและสร้างการยอมรับในวงกว้างได้

ฝากถึงทายาท ‘ทำที่บ้าน’

“เราได้เรียนรู้จากป๊าเรื่องอุดมการณ์และความรักในงานที่ทำ ป๊าพูดเสมอว่า สินค้าทุกอย่าง เรากินอย่างไร ลูกค้าก็กินอย่างนั้น หลายคนบอกให้ใช้สารกันเสียเพื่อให้สินค้าอยู่ได้นานขึ้น แต่เราเลือกที่จะไม่ทำ เพราะมันเป็นจุดขายที่ทำให้คนรักแบรนด์ของเรา มันคือความซื่อสัตย์ต่ออุดมการณ์ของตัวเองที่เราอยากส่งต่อให้ลูกค้า ป๊าบอกว่า บางครั้งอุดมการณ์และความสุข มันมีคุณค่ามากกว่าเงิน มันคืออุดมการณ์ทางการค้าขาย ที่ส่งต่อมาให้พวกเราทุกคนด้วย การซื่อสัตย์ต่อลูกค้าคือความสบายใจของป๊า เราในฐานะลูกก็ต้องให้เกียรติด้วย เพราะมันคือจิตวิญญาณของเค้า เราถึงเติบโตมาได้” 

“คุณค่าของการทำงานของเราทุกวันนี้ คือการได้ทำให้พ่อแม่มีความสุขที่เห็นธุรกิจค่อยๆ เติบโต เห็นสิ่งที่เขาทำมาถูกสานต่อและพัฒนาให้เข้ายุคเข้าสมัยมากขึ้น ความสุขนี้มันเป็นคุณค่าในการทำงานของทายาทที่เงินซื้อไม่ได้ นี่แหละคือคุณค่าของการ ‘ทำที่บ้าน’”